ระบบบริหารจัดการเว็บไซต์ (CMS) ด้วย Ajax โดยคนไทย

สิทธิ์ของผู้ค้ำประกันกับรถที่ถูกตำรวจยึด

ผู้เช่าซื้อได้เซ็นใบโอนลอยไว้ให้กับผู้ค้ำประกันแต่ยังไม่ได้ส่งมอบรถและผู้เช่าซื้อได้ค้างค่างวด 2 งวดสุดท้ายทางไฟแนนซ์จึงเรียกเก็บกับผู้ค้ำประกัน  ต่อมาฝ่ายผู้เช่าซื้อได้นำรถไปก่อคดียาเสพติดและถูกตำรวจยึดรถไว้  ทางไฟแนนซ์ก็ได้ทวงถามมายังผู้ค้ำให้ผู้ค้ำจ่ายค่างวดที่เหลือจึงอยากถามว่า

1.ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อได้โอนลอยให้กับผู้ค้ำประกันนั้น  ถ้าผู้ค้ำเคลียร์เงินคงค้างทั้งหมดกับทางไฟแนนซ์แล้วสามารถโอนรถมาเป็นชื่อผู้ค้ำได้หรือไม่

2.ถ้าโอนชื่อมาเป็นผู้ค้ำได้แล้วผู้ค้ำมีสิทธิ์ที่จะตามรถที่ตำรวจยึดไว้ได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไร
04 ต.ค. 2555 2 2,624

  ๑.  ในกรณีที่ผู้่เช่าซื้อได้โอนลอยให้กับผู้ค้ำประกันนั้น กรรมสิทธิ์ยังไม่เป็นของผู้ค้ำประกันในทันที เพราะยังไม่ได้ไปแจ้งกับขนส่งเพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในการครอบครองรถ 



       ต่อมาถ้าผู้ค้ำประกันเคลียร์เงินให้หมดแล้ว. . .กรรมสิทธิ์ในรถก็จะตกเป็นขอผู้เช่าซื้อ(คนทำก่อเหตุ)ในทันที 



       ดังนั้น  เมื่อผู้เช่ามีกรรมสิทธิ์ในรถแล้ว ได้มีการเซ็นใบโอนลอยให้กับผู้ค้ำไว้ก่อนหน้านี้. . .ผู้ค้ำจะมีกรรมสิทธิ์ในรถอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อ  ก.  ส่งมอบรถให้กันแล้ว

                                                        ข. ได้ไปจดทะเบียนการโอนรถให้การที่ขนส่ง



ตอบ. . .สามารถโอนได้ครับ ตามข้อ ก. + ข้อ ข.



๒.  ถ้าโอนชื่อมาเป็นของผู้ค้ำได้แล้ว ผู้ค้ำมีสิทธิ์ตามรถที่ตำรวจยึดได้. . .โดย

                           ก.   ผู้ค้ำต้องไ่ม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดครั้งนี้

                           ข.   ผู้ค้ำต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลออกคำสั่งให้ร้อยเวรปล่อยรถ





      แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาข้อนี้คือ กรรมสิทธิ์ยังไม่ตกเป็นของผู้ค้ำเลยแม้ผู้ค้ำจะเป็นผู้ชำระเงินให้ก็ตามและได้ทำใบโอนลอยไว้แล้ว กรรมสิทธิ์ก็ยังไม่ตกเป็นของผู้ค้ำอยู่ดีเพราะ ยังไม่ได้มีการส่งมอบและไปโอนกันอย่างถูกต้องที่กรมขนส่ง 



       หากผู้เช่าซื้อนำรถไปก่อเหตุ แล้วโดนยึดไว้แล้วนั้น กรรมสิทธิ์ก็ยังคงเป็นของผู้เช่าอยู่ดี     ผู้ค้ำก็ไม่ิสิืทธิ์อะไรเลยในรถคัันดังกล่าว คงทำได้แต่เพียงได้รับเงินคืนจากผู้เช่าซื้อ คืนสองงวด 





ความคิดเห็น #1 12 ต.ค. 2555 124.120.xxx.xxx

  ๑.  ในกรณีที่ผู้่เช่าซื้อได้โอนลอยให้กับผู้ค้ำประกันนั้น กรรมสิทธิ์ยังไม่เป็นของผู้ค้ำประกันในทันที เพราะยังไม่ได้ไปแจ้งกับขนส่งเพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในการครอบครองรถ 



       ต่อมาถ้าผู้ค้ำประกันเคลียร์เงินให้หมดแล้ว. . .กรรมสิทธิ์ในรถก็จะตกเป็นขอผู้เช่าซื้อ(คนทำก่อเหตุ)ในทันที 



       ดังนั้น  เมื่อผู้เช่ามีกรรมสิทธิ์ในรถแล้ว ได้มีการเซ็นใบโอนลอยให้กับผู้ค้ำไว้ก่อนหน้านี้. . .ผู้ค้ำจะมีกรรมสิทธิ์ในรถอย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อ  ก.  ส่งมอบรถให้กันแล้ว

                                                        ข. ได้ไปจดทะเบียนการโอนรถให้การที่ขนส่ง



ตอบ. . .สามารถโอนได้ครับ ตามข้อ ก. + ข้อ ข.



๒.  ถ้าโอนชื่อมาเป็นของผู้ค้ำได้แล้ว ผู้ค้ำมีสิทธิ์ตามรถที่ตำรวจยึดได้. . .โดย

                           ก.   ผู้ค้ำต้องไ่ม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดครั้งนี้

                           ข.   ผู้ค้ำต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลออกคำสั่งให้ร้อยเวรปล่อยรถ





      แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาข้อนี้คือ กรรมสิทธิ์ยังไม่ตกเป็นของผู้ค้ำเลยแม้ผู้ค้ำจะเป็นผู้ชำระเงินให้ก็ตามและได้ทำใบโอนลอยไว้แล้ว กรรมสิทธิ์ก็ยังไม่ตกเป็นของผู้ค้ำอยู่ดีเพราะ ยังไม่ได้มีการส่งมอบและไปโอนกันอย่างถูกต้องที่กรมขนส่ง 



       หากผู้เช่าซื้อนำรถไปก่อเหตุ แล้วโดนยึดไว้แล้วนั้น กรรมสิทธิ์ก็ยังคงเป็นของผู้เช่าอยู่ดี     ผู้ค้ำก็ไม่ิสิืทธิ์อะไรเลยในรถคัันดังกล่าว คงทำได้แต่เพียงได้รับเงินคืนจากผู้เช่าซื้อ คืนสองงวด 





ความคิดเห็น #2 12 ต.ค. 2555 124.120.xxx.xxx
ความคิดเห็น
ไฟล์อัปโหลด ชนิด jpg, jpeg ขนาดไฟล์ไม่เกิน 500
^